Asia Testing Equipment - ผู้นำโซลูชันตรวจสอบทางวิศวกรรมโยธา & ธรณีฟิสิกส์
TransTech SDG 200 Non-Nuclear Soil Density Gauge

TransTech SDG 200 Non-Nuclear Soil Density Gauge

เกจวัดความหนาแน่นดินแบบไม่ใช้รังสี สำหรับวัด Wet/Dry Density, %Compaction และ %Moisture บนชั้นดินหนา 12 นิ้วในสนาม มาพร้อมหน้าจอสัมผัสสีเต็มรูปแบบ ระบบจัดการข้อมูล และเทคโนโลยีวัดด้วยสเปกโทรสโกปีอิมพีแดนซ์ไฟฟ้า (EIS) เพื่อลดการพึ่งพา Nuclear Gauge และปัญหาเรื่องใบอนุญาต–การขนส่ง

ภาพรวมของระบบ

SDG 200 เป็นเกจวัดความหนาแน่นดินแบบไม่ใช้รังสี ที่ใช้เทคโนโลยี Electrical Impedance Spectroscopy (EIS) ในการแยกอิทธิพลของความชื้นและความหนาแน่นต่อการตอบสนองของดินต่อสนามไฟฟ้า จึงสามารถรายงานค่า Wet Density, Dry Density, %Compaction และ %Moisture ของชั้นดินหนา 12 นิ้วได้แบบเรียลไทม์ในสนาม

ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอสัมผัสสีแบบ VGA อินเทอร์เฟซแบบกราฟิกใช้งานง่าย สามารถตั้งค่า Project และ Material ได้เอง มีโหมด Diagnostics ตรวจสอบสถานะเครื่อง จัดการข้อมูลผ่าน Data Management Screen ดาวน์โหลดผลการทดสอบผ่าน USB และมีระบบ GPS สำหรับบันทึกพิกัดและเวลาแต่ละจุดทดสอบ

Measurement depth

12″ / 30 cm
standard soil lift

Sensing area

11″ base
Ø ≈ 28 cm

Accuracy

±2% Wet density
±2% Water content

เหตุผลที่หน่วยงานภาคสนามเลือกใช้ SDG 200

ไม่ใช้รังสี ลดภาระใบอนุญาต & โลจิสติกส์

SDG 200 ใช้เทคโนโลยีไฟฟ้า ไม่ใช้แหล่งกำเนิดรังสี จึงไม่ต้องมีใบอนุญาตสารกัมมันตรังสี ไม่ต้องรถขนส่งพิเศษ และไม่มีข้อจำกัดด้านการจัดเก็บ ช่วยลดต้นทุนระยะยาวและลดความยุ่งยากด้านความปลอดภัย เมื่อเทียบกับ Nuclear Gauge แบบเดิม

ค่าที่รายงานตรงกับงานออกแบบ

รายงานทั้ง Wet/Dry Density, %Compaction และ %Moisture ตามมาตรฐาน ASTM D7830 โดยดึงค่าพารามิเตอร์จาก Proctor Test และ Gradation (ASTM D698, D1557, D422) ทำให้ข้อมูลภาคสนามเชื่อมต่อกับแบบและสเปกของงานได้โดยตรง รองรับแนวทาง Mechanistic–Empirical ของหน่วยงานสมัยใหม่

เร็ว ทนทาน ใช้งานง่ายในไซต์งานจริง

ตัวเครื่องหุ้มด้วยโครงอะลูมิเนียม น้ำหนักเบา พร้อมด้ามต่อเสริมสำหรับใช้งานยืนตัวตรง มีกราฟิกสะท้อนแสงมองเห็นได้ชัดในที่มืด แบตเตอรี่ NiMH ใช้งานต่อเนื่องได้ราว 8 ชั่วโมง/ชาร์จ ใช้เวลาอ่านค่าเฉลี่ยเพียงไม่กี่สิบวินาทีต่อจุด จึงเก็บข้อมูลได้หลายร้อยจุดต่อวัน

คุณสมบัติเด่น (Features)

ไฮไลต์หลักของ TransTech SDG 200 สำหรับงานควบคุมคุณภาพการบดอัดแบบไม่ใช้รังสี

SDG 200 non-nuclear density and moisture measurement

เทคโนโลยี EIS แบบไม่ใช้รังสี

SDG 200 ใช้ Electrical Impedance Spectroscopy (EIS) ในการวัดการตอบสนองของดินต่อสนามไฟฟ้า เพื่อนำมาคำนวณค่า Wet Density, Dry Density, %Compaction และ %Moisture ของวัสดุที่ใช้งานในโครงการก่อสร้างถนนทั่วไป ช่วยให้เห็นสภาพการบดอัดจริงของชั้นดินหนา 12 นิ้ว โดยไม่ต้องใช้แหล่งกำเนิดรังสี

SDG 200 touch screen and data management

หน้าจอสัมผัสสี & ระบบจัดการข้อมูลครบวงจร

มาพร้อมหน้าจอ Color VGA Touch Screen พร้อมไฟ LED Backlight ใช้งานได้ทั้งกลางวัน–กลางคืน สามารถกำหนด Project, Material และ Mix Entries ได้เอง มีโหมด Diagnostics ตรวจสอบเครื่อง Data Management Screen สำหรับจัดการชุดข้อมูล และดาวน์โหลดผลทดสอบผ่าน USB ในรูปแบบไฟล์ .CSV รวมถึงบันทึกข้อมูล GPS และเวลาได้ในแต่ละจุดทดสอบ

SDG 200 rugged and lightweight design

โครงสร้างแข็งแรง น้ำหนักเบา พร้อมเคสกันกระแทก

ตัวเครื่องน้ำหนักประมาณ 6.4 กิโลกรัม พร้อมฐานวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 11 นิ้ว และด้ามต่อช่วยให้ผู้ใช้ยืนตัวตรงขณะทำการวัด มีกราฟิกสะท้อนแสงเพื่อการมองเห็นในเวลากลางคืน จัดเก็บในเคสแข็งกันน้ำพร้อม Standardization Plate เฉพาะของแต่ละเครื่อง รองรับอุณหภูมิการใช้งาน ตั้งแต่ประมาณ –20°C ถึง 40°C เหมาะกับสภาพไซต์งานหลากหลาย

งานที่เหมาะสม (Applications)

QC/QA การบดอัด Subgrade / Subbase / Base

งานปูถนนใหม่และงานปรับปรุงผิวทาง

ถมคันดิน เขื่อนดิน และเขื่อนกันดิน

ถมกลับรอบท่อ สาธารณูปโภค และโครงสร้างฝังดิน

งานสนามบิน Runway / Taxiway / Apron

ทางรถไฟ Ballast / Subgrade

งานตรวจสอบคุณภาพการบดอัดแบบ Performance-based

งานวิจัยด้านชั้นดินและโมเดลเชิงกล–ประจักษ์

ซอฟต์แวร์และการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

SDG 200 Data Management & Download

ระบบจัดการข้อมูลในตัวเครื่องช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบ ลบ หรือปิดการบันทึกข้อมูลได้ตามความต้องการ และสามารถดาวน์โหลดผลการวัดผ่าน USB ในรูปแบบไฟล์ CSV เพื่อใช้ในรายงานหรือระบบจัดเก็บข้อมูลของหน่วยงาน

การวิเคราะห์ต่อใน Excel / Pavement Design Tools

ข้อมูล Density, %Compaction และ %Moisture สามารถนำไปเปิดใน Excel หรือซอฟต์แวร์ออกแบบโครงสร้างทาง แบบ Mechanistic–Empirical เพื่อสร้างกราฟ วิเคราะห์แนวโน้ม และกำหนด Target Range ที่เหมาะสมกับโครงการแต่ละรูปแบบ

ดาวน์โหลดเอกสาร

อยากเห็นตัวอย่างการใช้งานจริงหรือไม่?

ทีมวิศวกรของเราพร้อมให้คำปรึกษา ช่วยออกแบบแนวทางสำรวจ และแนะนำ workflow ตั้งแต่การเก็บข้อมูลจนถึงการแปลผลสำหรับโครงการของคุณ